ปัจจุบันสำหรับผู้ใช้รถ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ ป้ายแดง หรือ รถยนต์ มือสอง ด้วยแล้ว คงหลีกเลี่ยงไม่ได้นะครับว่า เราต้องดูแลรถทั้งภายนอกและภายใน บางที เราก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์หรือส่วนประกอบต่างๆ ไว้บ้าง เป็นความรู้ประดับหัว โดยเฉพาะ “เบรก” ที่เป็นหัวใจหลักในการขับขี่ให้ปลอดภัยตลอดทุกเส้นทาง สิ่งที่จะให้เบรกทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ต้องมี “น้ำมันเบรก” เป็นตัวช่วย มาดูว่า สิ่งๆ นี้ มันคืออะไร และมีความสำคัญเช่นไร

น้ำมันเบรก คืออะไร

น้ำมันไฮโดรลิก ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในระบบเบรกของรถยนต์ โดยเป็นตัวช่วยส่งแรงดันจากแม่ปั๊มเบรกไปยังลูกสูบเบรก ในขณะที่เราทำการเหยียบเบรกรถยนต์ เพื่อให้เกิดการเสียดสีระหว่างผ้าเบรกกับจานเบรก และช่วยให้รถหยุดได้นั่นเอง น้ำมันเบรกจึงมีความจำเป็นต่อการป้องกันการสึกหรอของระบบเบรก และที่สำคัญที่สุดคือช่วยป้องกันเบรกแตก ซึ่งหากเกิดขึ้นแล้วก็จะเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ รวมทั้งอาจสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นด้วย ยิ่งเป็นรถยนต์ มือสอง ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะ ผ่านการใช้งานมาแล้ว อีกด้วย

น้ำมันเบรก สำคัญอย่างไรในการดูแลรถยนต์ มือสอง CHATCHAI CAR ฯลฯ

ปัจจัยอะไรที่ทำให้มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรก

1. ความร้อน : การเหยียบเบรกกะทันหันหรือเหยียบเบรกบ่อย ๆ เช่น การขับรถทางชัน ทำให้ต้องใช้ระบบเบรกค่อนข้างมาก ส่งผลให้น้ำมันเบรกซึมซับความร้อนเอาไว้แล้วระบายสู่ส่วนอื่นไม่ทัน จนเกิดความร้อนสูง หรือจุดเดือดสูงสุด ซึ่งอุณหภูมิอาจสูงได้ถึง 350-400 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เกิดอาการเบรกไม่อยู่หรือเบรกแตก เพราะน้ำมันเบรกระเหยกลายเป็นไอในกระบอกสูบเบรกจนไม่มีแรงดันที่จะไปกระทำต่อลูกสูบเบรกให้ไปดันผ้าเบรกได้นั่นเอง
2. ความชื้น : น้ำมันเบรกเป็นของเหลวชนิดหนึ่งที่สามารถดูดซับความชื้นจากอากาศได้ดี และยิ่งเมืองไทยเป็นประเทศที่มีความชื้นสูง จึงทำให้เสื่อมสภาพได้ง่าย เพราะความชื้นจะเข้าไปผสมกับน้ำมันเบรก ทำให้มีจุดเดือดต่ำลง อีกทั้งยังไปกัดกร่อนชิ้นส่วนอะไหล่ที่เป็นโลหะจนเกิดสนิมได้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างหนึ่งที่ช่วยในการทดสอบคุณภาพน้ำมันเบรคได้แล้ว นั่นก็คือ ”ปากกาวัดความชื้นน้ำมันเบรก” ที่จะบอกว่าความชื้นในน้ำมันเบรคของเรามีค่าเท่าไหร่ มีตั้งแต่สีเขียว (ปกติ) ถึง สีแดง (น้ำมันเบรคหมดสภาพ)

วิธีเปลี่ยนน้ำมันเบรกแบบไหนดีที่สุด

ตรงๆ นี้ แนะนำให้ “เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทั้งระบบ” ซึ่งจะมีเครื่องมือในการจัดการส่วนนี้ จะทำงานโดยการใช้น้ำมันเบรกใหม่ไล่น้ำมันเบรกเก่า เป็นระบบปิด ซึ่งปราศจากความชื้น 99.99% ไม่ต้องใช้ลม ไม่ต้องย้ำเบรก ซึ่งดีกับรถลูกค้าอย่างเรามากๆ และเสร็จได้ภายใน 10 นาที ยิ่งเป็นรถยนต์ มือสอง ด้วย ถือว่ารวดเร็วทันใจมากๆ หากท่านใดสนใจอยากลองใช้เครื่องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทั้งระบบ สามารถลองสอบถามตามศูนย์บริการรถยนต์รายใหญ่ในจังหวัดดูว่า “มีบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทั้งระบบหรือไม่” (เช็คร้านตัวแทนเครื่องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทั้งระบบที่นี่)

ข้อควรปฏิบัติกับน้ำมันเบรก

ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทุกๆ 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร จะช่วยป้องกันสนิมในระบบเบรก ยิ่งเป็นระบบเบรก ABS ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง และใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพสูงเป็นการประกันความปลอดภัย และไร้กังวลกับการซ่อมที่มีราคาแพง

มาตรฐาน DOT ของน้ำมันเบรก

น้ำมันเบรก สำคัญอย่างไรในการดูแลรถยนต์ มือสอง CHATCHAI CAR

จะเห็นว่าน้ำมันเบรคจะขึ้นต้นด้วย DOT แล้วตามด้วยตัวเลข หลายคนอาจจะสงสัยว่าแต่ละ DOT แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งน้ำมันเบรคมีการกำหนดค่ามาตรฐานสำหรับน้ำมันเบรคว่า DOT (Department of Transportation) หรืออธิบายง่าย ๆ ว่าค่าจุดเดือดน้ำมัน

  • น้ำมันเบรค DOT 3 จุดเดือดแห้ง 205 องศาเซลเซียส จุดเดือดเปียก 140 องศาเซลเซียส เหมาะกับ การขับขี่ทั่วไป วิ่งแค่ในเมือง
  • น้ำมันเบรค DOT 4 จุดเดือดแห้ง 230 องศาเซลเซียส จุดเดือดเปียก 155 องศาเซลเซียส เหมาะกับ ภูมิอากาศชื้นๆ เช่น ในเขตภาคใต้ของไทย
  • น้ำมันเบรค DOT 5 จุดเดือดแห้ง 260 องศาเซลเซียส จุดเดือดเปียก 180 องศาเซลเซียส (ส่วนผสมหลักจาก Silicone) ไว้ใช้งานขับรถทางไกล ขับรถขึ้นเขาลงห้วย