เวลาที่คุณได้ขับขี่รถยนต์ มือสอง หรือ ป้ายแดง ไปไหนมาไหนก็ตาม สิ่งที่จะนึกถึงเลยคือ เรื่องหม้อน้ำรถยนต์ ที่ต้องใช้ความร้อนในการเดินเครื่องให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากวันดีคืนดี ระบบความร้อนของหม้อน้ำมีปัญหา จะมีอาการร้อนเกินไป หรือ OVER HEAT ได้ทุกเมื่อ สิ่งที่ช่วยให้หม้อน้ำรถยนต์ของเราเอง ระบายความร้อน และช่วยรักษาหม้อน้ำได้ คือ “น้ำหล่อเย็น” มาดูว่าความสำคัญของตัวนี้ มีอะไรบ้าง !?

น้ำหล่อเย็น (Coolant) คืออะไร !?

น้ำยาสำหรับเติมหม้อน้ำรถยนต์ เป็นตัวช่วยระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ต่าง ๆ ทำงานได้ตามปกติ ไม่มีความร้อนสูงเกินมาตรฐาน ประกอบไปด้วย น้ำเปล่า 50% และ ไกลคอล 50%

ประโยชน์ของน้ำยาหล่อเย็น (Coolant)

น้ำหล่อเย็น สำคัญอย่างไรในการดูแลรถยนต์ มือสอง CHATCHAI CAR รถมือสอง รุ่นเก่า

  • ช่วยถ่ายเทความร้อนให้กับเครื่องยนต์ ถือว่าเป็นคุณประโยชน์ข้อแรกของน้ำยาหล่อเย็นเลยก็ว่าได้ เมื่อเครื่องยนต์ทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะมีอุณหภูมิที่สูงมากจนเลยจุดเดือด น้ำยาหล่อเย็นจะช่วยขยับจุดเดือดของน้ำที่ไหลเวียนอยู่ในระบบระบายความร้อน ซึ่งจุดเดือดของน้ำยาหล่อเย็นจะอยู่ที่ 120 องศเซียลเซสขึ้นไป ส่งผลให้น้ำในระบบระบายความร้อนเดือดช้าลง ระบบหล่อเย็นถ่ายเทความร้อนได้รวดเร็วขึ้น ต่างจากน้ำเปล่าที่มีจุดเดือดอยู่ที่ 100 องศเซียลเซส
  • ป้องกันการกัดกร่อนและสนิม ในน้ำยาหล่อเย็น ยังมีสารเติมแต่งที่ช่วยป้องกันการกัดกร่อนของชิ้นส่วนต่างๆในระบบหล่อเย็น เช่น ปั้มน้ำ วาลว์น้ำ ออยคูลเลอร์ หม้อน้ำและแผงระบายความร้อนภายใน ท่อยาง ท่อทางเดินต่างๆของน้ำที่ทำจากโลหะ ปลอกสูบ เสื้อสูบรวมทั้งฝาสูบ ซึ่งในกรณีของน้ำเปล่า นอกจากจะไม่ได้ช่วยป้องกันการกัดกร่อนแล้ว ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ เกิดสนิมและการผุกร่อนอย่างรวดเร็ว จนทำให้ระบบระบายความร้อนส่วนต่างๆ ทำงานผิดพลาด และอาจทำให้เครื่องยนต์พังเสียหายตามมา
  • ป้องกันการเกิดคราบตะกรัน น้ำยาหล่อเย็นที่ดีและมีคุณภาพ ยังช่วยป้องกันการเกิตะกรันภายในหม้อน้ำ โดยเฉพาะบริเวณแผงระบายความร้อนในหม้อน้ำ หรือรังผึ้งหม้อน้ำ สาเหตุของการเกิดตระกรัน เกิดจากการเติมน้ำเปล่าลงในหม้อน้ำนั่นเอง ซึ่งในน้ำมักจะมีแร่ธาตุ แคลเซียม และแมกนีเซียม ปนอยู่ในปริมาณมาก เมื่อเติมลงไปในหม้อน้ำ จะเกิดหินปูน แคลเซียมคาร์บอเนต และแมกนีเซียมคาร์บอเนต ก่อตัวเป็นคราบตระกรันขึ้น และขัดขวางทางเดินของน้ำในแผงระบายความร้อนในรังผึ้ง ทำให้หม้อน้ำเกิดการอุดตัน ระบายความร้อนได้น้อย เมื่อความร้อนสูงขึ้นมาก ลูกสูบจะเกิดการขยายตัว เสียดสีกับผนังสูบอย่างรุนแรง เกิดการไหม้ ลูกสูบติด ส่งผลให้ฝาสูบโก่ง จนเป็นเหตุทำให้เครื่องยนต์พังเสียหาย
  • ป้องกันการเกิดฟอง (Antifoam) น้ำยาหล่อเย็นจะมีสารป้องกันการเกิดฟอง (Antifoam) ช่วยลดหรือกำจัดฟองอากาศที่เกิดขึ้น ไม่ให้ไปรบกวนการระบายความร้อน ทำให้การระบายความร้อนเต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งช่วยยืดอายุชิ้นส่วนของส่วนประกอบต่างๆ ของระบบหล่อเย็นได้อีกด้วย
  • ป้องกันการแข็งตัว ในสภาวะอุณหภูมิติดลบ สำหรับประเทศในเขตหนาว ซึ่งมีอุณหภฺมิต่ำกว่า 0 องศาเซียลเซส น้ำยาหล่อเย็นจะมีคุณสมบัติ ป้องกันการแข็งตัว (Antifreeze) คือสารจำพวก เอทธิลีนไกลคอล (Ethylene Glycol) ซึ่งช่วยให้น้ำยาหล่อเย็นคงสภาพเป็นของเหลว สามารถไหลเวียน และระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ ถึงแม้จะมีอุณหภูมิจะต่ำกว่าจุดเยือกแข็งก็ตาม
  • ช่วยหาจุดรั่วไหลของหม้อน้ำได้ง่าย น้ำยาหล่อเย็นส่วนใหญ่ จะมีสีสันที่ถูกผสมลงไป เช่น เขียว แดง เหลือง เพื่อให้ช่างหรือผู้ใช้ สามารถตรวจสอบจุดรั่วไหลของหม้อน้ำได้ง่าย สีของน้ำยาหล่อเย็น ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกถึงคุณภาพ แต่เป็นเพียงตัวช่วยชี้จุดรั่วไหลของหม้อนน้ำได้ และช่วยให้เราสามารถสังเกตุระดับของน้ำยาหล่อเย็นในถังพักน้ำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ประเภทของน้ำหล่อเย็น มีกี่ประเภท !?

  • เทคโนโลยีสารเพิ่มคุณภาพจากสารอนินทรีย์ สารหล่อเย็นประเภทนี้มี สีเขียวสะท้อนแสง ซึ่งควรเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 50,000 กม. สารหล่อเย็นประเภทนี้เหมาะสมที่จะใช้กับรถยนต์ มือสอง รุ่นเก่าที่ผลิตช่วงกลางยุค 90 เป็นสารหล่อเย็นที่แนะนำสำหรับรถยนต์ของ ไครสเลอร์ (Chrysler) และ ฟอร์ด (Ford)
  • เทคโนโลยีสารเพิ่มคุณภาพจากสารอินทรีย์ สารหล่อเย็นประเภทนี้อาจเป็นมี สีส้ม, สีอำพัน, สีน้ำเงิน, หรือ สีเขียวเข้ม ซึ่งควรเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 200,000 กม. โดยสารหล่อเย็นประเภทนี้เหมาะกับการใช้งานทั้งกับรถยนต์ใหม่และเก่า ซึ่งถูกแนะนำโดย โฟล์คสวาเกน (Volkswagen), ฮอนด้า (Honda), โตโยต้า (Toyota), วอลโว่ (Volvo), รวมถึง เทสล่า (Tesla)
  • เทคโนโลยีสารเพิ่มคุณภาพจากสารอินทรีย์แบบผสม สารหล่อเย็นประเภทนี้ มีหลากหลายสี ตั้งแต่ สีเหลือง, สีส้ม, สีอำพัน, สีน้ำเงิน, สีชมพู, สีแดง, หรือ สีม่วง ซึ่งควรเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 200,000 กม. สารหล่อเย็นประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับรถยนต์รุ่นใหม่ และถูกแนะนำโดย บีเอ็มดับเบิ้ลยู (BMW), อาวดี้ (Audi), โฟล์คสวาเกน (Volkswagen), ปอร์เช่ (Porsche), จากัวร์ (Jaguar), แลนด์ โรเวอร์ (Land Rover), วอลโว่ (Volvo) และผู้ผลิตรถยนต์ในภูมิภาคเอเชีย เช่น ฮอนด้า (Honda) กับ โตโยต้า (Toyota)

น้ำหล่อเย็น สำคัญอย่างไรในการดูแลรถยนต์ มือสอง CHATCHAI CAR รถมือสอง

น้ำยาหล่อเย็นเติมเองได้ไหม ใครๆ ก็เติมได้ง่ายๆ

สำหรับมือใหม่ ที่เพิ่งมีรถยนต์ มือสอง หรือ รถยนต์ ป้ายแดง เป็นของตัวเอง หรือแม้กระทั่งคนที่มีรถขับมานานแต่ไม่เคยเติมเองสักที โดยเฉพาะ คุณผู้หญิง ที่คิดว่าอาจจะยากไปหรือเปล่า ลองหัดเติมเองดูสักทีแล้วจะรู้ว่าง่ายมากๆ โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้

  • เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม กะละมังใบใหญ่ กรวย(หรือจะให้ขวดน้ำตัดเอาก้นขวดออกก็ได้) และผ้าเอาไว้จับกันความร้อน
  • น้ำยาหล่อเย็น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการเติมน้ำยาหล่อเย็นในครั้งนี้ ควรเลือกใช้ coolant ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อผลที่ดีในการช่วยระบายความร้อน
  • เริ่มถ่ายน้ำออก โดยเอากะละมังไปรองข้างใต้รถ เปิดหางปลาออกเพื่อถ่ายเอาน้ำเก่าที่อยู่ในหม้อน้ำออกให้หมด
  • ล้างทำงความสะอาด โดยปิดหางปลา เติมน้ำเปล่าลงไปให้เต็มก่อน ปิดฝาหม้อน้ำ แล้วสตาร์ทรถ 5-10 นาที เพื่อเป็นการล้างสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ภายในหม้อน้ำออก
  • ปล่อยน้ำออกแล้ว ล้างอีกสักสองสามรอบ ดูว่าน้ำที่ปล่อยออกมาใหม่นั้นใสสะอาดดีแล้วจึงปิดหางปลา
  • ได้เวลาเติมน้ำยาหล่อเย็น โดยเติมให้เต็มไปถึงปากหม้อน้ำ ติดเครื่องทิ้งไว้ เร่งเครื่องเพื่อไล่อากาศ ค่อยๆ เติมน้ำยาหล่อเย็นลงไปจนเต็ม ถ้าใช้ขวดน้ำจะสังเกตเห็นฟองอากาศได้ง่ายกว่า เมื่อเต็มแล้วก็ปิดฝา เป็นอันเติมเสร็จเรียบร้อย

เติมน้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็น ได้หรือไม่ !?

หลายคนเน้นสะดวก ใช้น้ำเปล่าเติมเองก็ได้ง่ายๆ น้ำเปล่าเติมได้ แต่ควรเอาไว้กรณีฉุกเฉินที่ไม่มีน้ำยาหล่อเย็นจะดีกว่า เพราะประสิทธิภาพในการทำงานน้อยกว่า ทั้งจุดเดือดที่เร็วกว่า อีกทั้งยังไม่มีสารที่ช่วยกันสนิม กันการเกิดฟอง ลดการเกิดตะกรัน สังเกตได้ว่าคนที่ใช้น้ำเปล่าเติมหม้อน้ำมักเจออาการเหล่านี้